ไม้ยืนต้น | Monkey Flower Tree, Fire of Pakistan

First slide
QR-CODE

ชื่อวิทยาศาสตร์

Phyllocarpus septentrionalis Donn Sm.

ชื่อสามัญ

Monkey Flower Tree, Fire of Pakistan

ชื่ออื่น

วาสุเทพ

วงค์ หมวดหมู่

CAESALPINIOIDEAE

ประเภทพันธ์ไม้

ไม้ยืนต้น

ชนิดของลำต้น

ลำต้นเหนือดิน

สภาพทางนิเวศน์

การขยายพันธ์

การเพาะเมล็ด

การจัดเรียงตัวของใบ

เรียงสลับระนาบเดียว

รูปร่างของใบ

รูปไข่

แบ่งชนิดของผล

ผลรวม

ประเภทของดอก

ช่อดอก

ประเภทของดอก

ช่อดอก

ประเภทของเปลือก

เปลือกไม้ร่อง

ลักษณะของใบ

ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงสลับ แกนกลางใบประกอบยาว 13-15 ซม.ใบย่อย 3-5 คู่ เรียงตรงข้ามและเรียงจากขนาดเล็กไปใหญ่ จากโคนถึงปลาย รูปไข่หรือรูปรีแกมรูปใบหอก กว้าง 2-2.5 ซม. ยาว 4-6 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบแหลมและเบี้ยว ขอบใบเรียบ แผ่นใบบาง แต่ค่อนข้างเหนียว สีเขียวสดเกลี้ยง

ลักษณะของใบ

ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงสลับ แกนกลางใบประกอบยาว 13-15 ซม.ใบย่อย 3-5 คู่ เรียงตรงข้ามและเรียงจากขนาดเล็กไปใหญ่ จากโคนถึงปลาย รูปไข่หรือรูปรีแกมรูปใบหอก กว้าง 2-2.5 ซม. ยาว 4-6 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบแหลมและเบี้ยว ขอบใบเรียบ แผ่นใบบาง แต่ค่อนข้างเหนียว สีเขียวสดเกลี้ยง

ลักษณะของผล

ผลแห้ง เป็นฝักทรงแบนแผ่เป็นปีก รูปรีแกมรูปขอบขนาน คล้ายใบ กว้าง 1-3 ซม. ยาว 5-8 ซม. ฝักเหนียวมีเส้นนูนคล้ายเส้นใบ มีกระเปาะกลมหรือรูปรีนูนเด่น สีเขียวอ่อน เมื่อสุกสีน้ำตาลแดง เมล็ด ค่อนข้างกลมแบน สีน้ำตาลอ่อน ส่วนมากมี 1 เมล็ดต่อฝัก ติดผลเดือน มี.ค.-เม.ย. ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

ลักษณะของดอก

สีแดงอมส้ม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกเป็นช่อแบบช่อเชิงหลั่น ที่รอยแผลของก้านใบและปลายกิ่ง ช่อดอกตั้งยาว 5-7 ซม. ดอกย่อยรูปดอกหางนกยูง กลีบเลี้ยง 4 กลีบ รูปไข่ สีแดง กลีบดอก 5 กลีบ เกสรเพศผู้ 9-10 อัน สีแดง เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 1.5-2 ซม. ออกดอก เดือน ม.ค.-ก.พ.

รายละเอียดของเปลือก

เปลือกลำต้นหนาเป็นสีน้ำตาลเทา แตกหยาบ ๆ เป็นร่องลึก

ลักษณะของต้น

เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ 10 -12 เมตร ผิวเปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลอ่อน เรือนยอดแผ่กว้างกิ่งลู่ลง ผลัดใบ ใบเป็นรูปมนรีออกเป็นคู่ สลับกันตามลำต้น ลักษณะของใบปลายแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ มีสีเขียว ออกดอกเป็นช่อ ช่อดอกสีแดงสด ดอกจะบานไม่พร้อมกัน จะทยอยกันบานไล่ขึ้นไปตั้งแต่โคนก้านช่อจนถึงปลายช่อ เวลาบานจะแดงสพรั่งทั้งต้น เกสรยาวยื่นออกมากลางดอก ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกช่วงเดือนมกราคม*มีนาคม ผลเป็นฝักแบนรูปขอบขนานโค้งเล็กน้อย เมล็ดแบน มีถิ่นกำเนิดในประเทศกัวเตมาลา ทวีปอเมริกาใต้

ประโยชน์

ปลูกตามแนวถนน ให้ดอกสีแดงดูงามตา และดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ สรรพคุณของประดู่ เปลือกต้นมีรสฝาดจัด มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงร่างกาย (เปลือกต้น) แก่นเนื้อไม้ประดู่ มีรสขมฝาดร้อน มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงโลหิต บำรุงกำลัง บำรุงธาตุในร่างกาย (แก่น) แก่นเนื้อไม้ใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ไข้ แก้พิษไข้ (แก่น) ส่วนรากใช้เป็นยาแก้ไข้ แก้พิษไข้ (ราก) แก่นเนื้อไม้ใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้เสมหะ (แก่น) ใบนำมาตากแห้งใช้ชงกับน้ำร้อนเป็นชาใบประดู่ นำมาดื่มจะช่วยบรรเทาอาการระคายคอได้ (ใบ)

สถานที่พบ

ส่วนป่าวิทยาลัย